วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568

ศูนย์ฯ คุ้งกระเบน หนุนเกษตรกรแตกไลน์แปรรูป “น้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเล” ยกระดับสินค้า เพิ่มมูลค่า

 

ศูนย์ฯ คุ้งกระเบน หนุนเกษตรกรแตกไลน์แปรรูป น้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเลยกระดับสินค้า เพิ่มมูลค่า เข้าถึงผู้บริโภคง่าย ได้มาตรฐาน อย.

ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จ.จันทบุรี สนับสนุนเกษตรกรแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าสาหร่ายผักกาดทะเล ดันเกษตรกรกลุ่มหอยนางรมครบวงจรคุ้งกระเบนเพาะเลี้ยงและแปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเล แตกไลน์สินค้าให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายเป็นน้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเล และยกระดับการผลิตได้มาตรฐาน อย. พร้อมเปิดตลาดออนไลน์จำหน่ายทั่วประเทศ




อัญชลี คมปฏิภาณ หัวหน้าฝ่ายวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ประมง ผู้รับผิดชอบโครงการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล ประจำศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ เปิดเผยถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรกลุ่มหอยนางรมครบวงจรคุ้งกระเบนได้เพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล ว่าเริ่มต้นมาจากช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ทำให้กลุ่มหอยนางรมฯ ต้องประสบปัญหาการตลาด ทำให้ต้องมองหาอาชีพสร้างรายได้ใหม่ ๆ จนได้เข้ามาอบรมและรับถ่ายทอดความรู้เรื่องการเพาะเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเลจากศูนย์ฯ คุ้งกระเบน เมื่อนำไปทดลองเลี้ยงก็ประสบความสำเร็จ ต่อมาจึงมีการขยายการเลี้ยงและมีการแปรรูปเบื้องต้นเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นสาหร่ายผักกาดทะเลอบแห้งและเครื่องดื่มน้ำสาหร่ายผักกาดทะเล ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร(สวก.)







กลุ่มนี้มีจุดแข็งคือแต่เดิมที่ทำการเลี้ยงและแปรรูปหอยนางรมอยู่แล้ว เขามีสถานที่ผลิตที่ได้มาตรฐาน อย. และมีองค์ความรู้เรื่องการแปรรูปอยู่แล้ว เมื่อมาเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล จึงสามารถพัฒนาด้านการแปรรูปให้ได้มาตรฐาน อย. ได้ไม่ยาก




ด้าน รัชดาภา จำปาศรี ประธานกลุ่มหอยนางรมครบวงจรคุ้งกระเบน กล่าวถึงการเลี้ยงและแปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเล ว่าเป็นอาชีพที่สร้างรายได้และพลิกฟื้นฐานะให้กับครอบครัวและสมาชิก โดยกลุ่มมีความพร้อมในด้านสถานที่แปรรูปทำให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งสาหร่ายผักกาดทะเลอบแห้ง หมี่กรอบสาหร่ายผักกาดทะเล ข้าวเกรียบสาหร่ายผักกาดทะเล น้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเล ขาไก่ผสมสาหร่ายผักกาด และน้ำสาหร่ายผักกาดทะเล

ตอนแรกกลุ่มเราแปรรูปผลิตภัณฑ์จากหอยนางรม ตัวแรกที่ได้ อย. คือ ข้าวเกรียบหอยนางรม พอได้ อย. ก็ได้ขยายขอบเขตการส่งจำหน่ายสินค้าออกไปมากขึ้น แต่พอมาเจอช่วงโควิดก็ทำให้ต้องหยุดการผลิตทุกอย่าง พอดีทางศูนย์ฯ คุ้งกระเบนมีการเปิดอบรมเรื่องการเลี้ยงสาหร่ายผักกาดทะเล เราก็เข้าไปอบรม พอมาทำสาหร่ายผักกาดทะเลก็ทำให้กลุ่มพลิกฟื้นกลับมามีรายได้เพิ่มขึ้น จึงมีการขยายการเลี้ยง และยังรับซื้อสาหร่ายอบแห้งจากเครือข่ายเข้ามาแปรรูปด้วย







หนึ่งในผลิตภัณฑ์แปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเลที่ทางกลุ่มหอยนางรมครบวงจรคุ้งกระเบนได้พัฒนาขึ้นก็คือ น้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเลโดยพัฒนาสูตรมาจากสูตรน้ำพริกหอยนางรมที่กลุ่มเคยผลิตและได้รับความนิยม ซึ่งสูตรนี้มาจากงานวิจัยและได้รับการถ่ายทอดความรู้มาจากมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ซึ่งวัตถุดิบพื้นฐานจะเป็นเครื่องปรุงน้ำพริกเผา ได้แก่ พริก หอม กระเทียม มะขาม น้ำปลา และสาหร่ายผักกาดทะเล

น้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเลจะมีลักษณะคล้าย ๆ น้ำพริกเผา บรรจุในขวดแก้ว สามารถเก็บรักษาได้นาน 6 เดือน ซึ่งการพัฒนาการแปรรูปเป็นน้ำพริกนั้นถือเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่ทำให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย เพราะคนไทยรู้จักน้ำพริกอยู่แล้ว และสาหร่ายผักกาดทะเลก็เป็น superfood ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง จึงช่วยเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์แปรรูปได้เป็นอย่างดี

การผลิตน้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเล และผลิตภัณฑ์แปรรูปของเราได้มาตรฐาน อย. ตอนนี้ตลาดมีการตอบรับค่อนข้างดี ผลิตภัณฑ์แปรรูปมีวางจำหน่ายที่อาคารสิริพัฒนาภัณฑ์ ด้านหน้าศูนย์ ฯ คุ้งกระเบน ร้านภัทรพัฒน์ และขายในช่องทางออนไลน์ผ่านเพจ Home Seaweed ต้องบอกว่าผลผลิตสาหร่ายผักกาดทะเลตอนนี้มีไม่พอแปรรูป ตลาดยังมีความต้องการมาก ตอนนี้เราก็มีการขยายการเลี้ยงเพิ่ม และเชื่อว่าตลาดยังไปได้อีกไกล

ปัจจุบันกลุ่มหอยนางรมครบวงจรคุ้งกระเบน ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มเกษตรกรเครือข่ายของศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีความโดดเด่นมากในด้านการเลี้ยงและแปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเลเป็นผลิตภัณฑ์อาหารที่หลากหลาย และได้รับมาตรฐาน อย. โดยมีผลิตภัณฑ์แปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเลที่ผลิตและจำหน่ายอยู่ประมาณ 8 ชนิด และจะมีการพัฒนาไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ

ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อผลิตภัณฑ์แปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเลได้ที่เพจ   Home Seaweed หรือ        รัชดาภา จำปาศรี ประธานกลุ่มหอยนางรมครบวงจรคุ้งกระเบนโทร. 06-1329-4289 หรือสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับการเลี้ยงและการแปรรูปสาหร่ายผักกาดทะเลได้ที่ ศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โทร. 039 433 217

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

“วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” เทศกาลสัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

 




เปิดประสบการณ์ความมหัศจรรย์ของโลกใต้น้ำกับ FISHTIVAL 2025  ที่ยกทัพพาเหรดสัตว์น้ำกว่า 3,000 ตู้ ในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” เทศกาลสัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย




         วันที่ 13 มิถุนายน 2568 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณลานสปอตไลท์ ชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์  นายอัครา  พรหมเผ่า  รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์  นายบัญชา  สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง  ศ.พญ.นันทกร  ทองแตง  รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์สัมพันธ์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และคุณกัลยา  กมลรัตน์  ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค แถลงข่าวถึงความร่วมมือระหว่าง กรมประมง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตลอดจนภาครัฐและเอกชน กำหนดจัดงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” ขึ้น ในระหว่างวันที่ 27 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. เนรมิตพื้นที่กว่า 7,000 ตร.ม. ทั่วบริเวณชั้น G ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ให้กลายเป็นโลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหาตี่นตระการตากับความมหัศจรรย์ของขบวนสัตว์น้ำกว่า 3,000 ตู้ ภายใต้ธีม “FISHTIVAL (Fish Festival) เทศกาลสัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย” ทั้งความสวยงามของปลาประกวดที่ได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทยมากถึง 7 ชนิด 76 ประเภท ความลึกลับของปราสาทแดนอสรพิษใต้สายน้ำที่ท้าให้คุณมาพิสูจน์ ผลงานวิจัย นวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่จะพาคุณจึ้งทึ่งตลอดงาน และโชว์จับจระเข้ด้วยมือสุดหวาดเสียว รวมทั้งนิทรรศการความรู้ทางการแพทย์ Tox Fun Fest” พิษวิทยา ฉบับเข้าใจง่าย จากคุณหมอโรงพยาบาลศิริราช ตลอดจนการจำหน่ายยาตำรับศิริราช จำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าในการเลี้ยงสัตว์น้ำสวยงามในราคาพิเศษ...บัตรเข้าชม เพียง 20 บาท



 



        นายบัญชา  สุขแก้ว  อธิบดีกรมประมง กล่าวว่า  “งานวันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” เป็นกิจกรรมที่
จัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างกรมประมง คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ตลอดจนหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อนำรายได้ทูลเกล้าถวาย สมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์ และเป็นการส่งเสริม อนุรักษ์ เผยแพร่ความรู้ทางวิชาการเกี่ยวกับพันธุ์สัตว์น้ำและปลาสวยงาม และพรรณไม้น้ำชนิดต่าง ๆ ให้กับประชาชน เกษตรกร และเป็นการยกระดับการจัดงานก้าวสู่สากล ซึ่งสอดรับกับนโยบายของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” สนับสนุนให้เป็นเกษตรทันสมัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลักดันปลาสวยงามของประเทศไทยให้เป็นที่นิยมในตลาดโลก

         สำหรับกรมประมง ได้นำเสนอไฮไลต์สำคัญเพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีฯ เนื่องในโอกาสวันที่ 4 กรกฎาคม เป็นวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ จึงได้มีการจัดแสดง
ปลาซิวเจ้าฟ้า  และ ปลาปอมปาดัวร์  ปลาเทวดา  ปลาคาร์ป  ซึ่งเป็นปลาสวยงามที่อยู่ในหนังสือพระนิพนธ์ของพระองค์ท่าน ได้แก่ “ปอม” จอมยุ่ง / “เมื่อปลา...เทวดาตกสวรรค์ / จิตวิทยาปลาคาร์ป เป็นการแสดงถึงพระอัจฉริยะภาพในการประพันธ์
ในการเล่าเรื่องการเลี้ยงปลาสวยงามทั้ง 3 ชนิด 
และในส่วนของกิจกรรมสำคัญมีมากมาย ได้แก่ การจัดประกวดปลาสวยงามและการจัดตู้พรรณไม้น้ำที่ยิ่งใหญ่และได้มาตรฐานที่สุดในประเทศไทยชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารีฯ




โดยการประกวดปลาสวยงามจำนวนมากถึง 7 ชนิด 76 ประเภท ได้แก่ ปลากัด (29 ประเภท) ปลาหางนกยูง (13 ประเภท) ปลาทอง (11 ประเภท) ปลาหมอสีสายพันธุ์เดิม (7 ประเภท) ปลาหมอครอสบรีด (7 ประเภท) ปลาปอมปาดัวร์ (7 ประเภท) ปลาเอเชียนอโรวาน่า (2 ประเภท) และการประกวดจัดตู้พรรณไม้น้ำ จำนวน 3 ประเภท ได้แก่ การจัดตู้

พรรณไม้น้ำเลียนแบบธรรมชาติ (ประเภทนักเรียน) การจัดตู้พรรณไม้น้ำ Fancy / Festival ประเภทประชาชนทั่วไป และการจัดตู้พรรณไม้น้ำ แบบครึ่งบกครี่งน้ำ (paludarium) ประเภทจัดสด และอีกหนึ่งไฮไลต์สำคัญ คือ การจัดนิทรรศการประมงภายใต้ธีม FISHTIVAL  โดยนำเสนอนิทรรศการจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำซึ่งเป็นนิทรรศการมีชีวิตที่น่าสนใจ และในปีนี้ กรมประมงได้รวบรวมนิทรรศการผลงานวิจัย นวัตกรรม และเทคโนโลยี ตลอดจนนิทรรศการความรู้ด้านประมงที่น่าสนใจ ถ่ายทอดเรื่องราวและข้อมูลต่าง ๆ ให้ผู้เข้าชมงานได้สัมผัสมนต์เสน่ห์ FISHTIVAL ผ่านความสนุกสนานที่แฝงด้วยสาระความรู้สุดล้ำที่ห้ามพลาดในการเรียนรู้ ดังนี้







         นิทรรศการประมง  ประกอบด้วย

         โซนชิงช้าสวรรค์สร้างสรรค์นวัตกรรมประมง เป็นการจัดแสดงผลงานวิจัย นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านการประมง อาทิ รวมความสำเร็จในการเพาะขยายพันธุ์สัตว์น้ำของกรมประมง ปลาสลิดหินคูปัง ปลาสลิดหินโรลแลนด์ ปลากระบอกดำ และปลาเห็ดโคน / รวม 13 สายพันธุ์ปลาการ์ตูนที่กรมประมงเพาะพันธุ์สำเร็จ อาทิ ปลาการ์ตูนเพอร์คูลา  ปลาการ์ตูนเพอร์คูลาแพลทินัม  ปลาการ์ตูนดำ ปลาการ์ตูนดำสโนว์เฟลค  ปลาการ์ตูนฟรอสท์ไบท์  ปลาการ์ตูนแดงทันเดอร์  ปลาการ์ตูนโกลด์นักเก็ต  ปลาการ์ตูนโกลด์ครอสทันเดอร์ ฯลฯ  /  สีใหม่ใบพายเขาใหญ่ การปรับปรุงพรรณไม้น้ำสวยงาม / ผลิตภัณฑ์เพิ่มมูลค่าจากเปลือกกุ้งและก้างปลา  “เซมเบ้กุ้ง” ข้าวเกรียบแผ่น “ปลาแผ่นเสริมแคลเซียม” เนื้อปลาบด อบกรอบ  และผลิตภัณฑ์แปรรูปปลานิล เช่น ปลานิลกลิ่นชานอ้อย ปลานวลจันทร์ทะเล เช่น ปลานวลจันทร์ทะเลก้างนิ่มอบชานอ้อย ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นการแปรรูปประมงที่ยั่งยืน ส่งเสริมการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าด้วยแนวคิดลดขยะให้เป็นศูนย์ (Zero waste) รวมไปถึงการเพาะเลี้ยงและผลิตภัณฑ์สาหร่ายทะเลนานาชนิด และ การเลี้ยงกุ้งก้ามกรามแบบพรีเมี่ยม ตามแนวทางการพัฒนาแบบ BCG ฯลฯ

         โซนรถไฟเหาะความคิดสู่ความรู้ประมง เป็นการจัดแสดงนิทรรศการความรู้ทางการประมงอีกมากมาย อาทิ อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยทางทะเลจาก SEAFDEC / แบบจำลองชุดเพาะฟักปลานิล / Mobile hatchery ชุดเพาะฟักเคลื่อนที่สำหรับเพาะพันธุ์ลูกปลา / การตรวจสอบย้อนกลับสินค้าประมงภายใต้ระบบตามสอบสินค้าเกษตรบนระบบคลาวด์ (QR Trace On Cloud)

         โซนปราสาทแดนอสรพิษใต้สายน้ำ แบ่งเป็นโซนต่าง ๆ ดังนี้

              1.1 สัตว์น้ำมีพิษ : เป็นการจัดแสดงสัตว์น้ำที่มีความสวยงามชวนหลงใหลแต่แฝงไปด้วยอันตราย
ในเวลาเดียวกัน จำนวนกว่า 30 ชนิด  โดยโซนนี้จะนำเสนอความลับสิ่งน่าทึ่งและสัญชาตญาณของเหล่าสัตว์น้ำมีพิษ พร้อมความรู้ในการป้องกันเมื่อต้องเจอกับสัตว์น้ำมีพิษเหล่านี้ อาทิ ความแตกต่างของแมงดาถ้วย (พิษแรงถึงตาย) และ แมงดาจาน (กินได้) ปูใบ้ลายตาข่าย ปูทะเลพิษรุนแรงกินเข้าไปถึงตายได้ ปลาปักเป้าสุวัติ / ปลาปักเป้าขน / ปลาปักเป้าแคระ ปลาปักเป้าน้ำจืดที่มีความดุร้ายและมีพิษรุนแรง ห้ามกินโดยเด็ดขาด ฯลฯ

             1.2 สัตว์น้ำคล้ายงู : ด้วยปี 2568 ตรงกับปีนักษัตร ปีมะเส็ง หรือ ปีงูเล็ก จึงได้มีการจัดแสดงสัตว์น้ำที่มีลักษณะคล้ายงู ทั้งรูปร่าง การเคลื่อนไหว และพฤติกรรม อาทิ ปลาจิ้มฟันจระเข้ยักษ์  ปลาช่อนข้าหลวง  ปลาช่อนงูเห่า  ปลาชะโด  ปลาตูหนา  ปลากระทิงไฟ  ฯลฯ 

            1.3 สัตว์น้ำในบ่อ Touch Pool : โดยจำลองระบบนิเวศทะเลชายฝั่งในบ่อ Touch Pool เพื่อให้
ผู้เข้าชมงานโดยเฉพาะเด็กๆ ได้สัมผัสประสบการณ์ชมสัตว์น้ำอย่างใกล้ชิด อาทิ ดาวทะเล ปลิงทะเล เม่นทะเล และปลาการ์ตูน

         สัตว์น้ำสวยงาม 3 บุรี เป็นการจัดแสดงสัตว์น้ำสำคัญ ๆ ของ 3 จังหวัด ได้แก่ ราชบุรี สุพรรณบุรี กาญจนบุรี : ปลาทองยักษ์  ปลาทองโบราณ ปลากัดสวยงาม  กุ้งแคระ และกิจกรรมร่วมสนุก อาทิ Photo Boothฉากถ่ายรูป/ ให้อาหารปลาตามวันเกิด/ หาบ้านให้น้อง และพิเศษสุด กับการเเจกลูกปลาบอลลูนสายพันธุ์ที่กำลังฮิตติดตลาดทั้งในและต่างประเทศ ที่ทุกคนกำลังตามหามากที่สุดในตอนนี้ แจกให้กับผู้ที่รักอยากเลี้ยงปลาบอลลูน วันละ 10 คู่ และแจก ปลากัด, ปลาหางนกยูง, ปลาสอด วันละ 300 ตัว

         โซนพาเหรดสัตว์น้ำแห่งจินตนาการ จัดแสดงผลงานของน้องนักเรียนระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดวาดภาพระบายสี หัวข้อการประกวด FISHTIVAL (Fish Festival)

นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมวงล้อหรรษาปล่อยปลาเติมบุญ เป็นกิจกรรมปล่อยปลาออนไลน์โดยการร่วมบริจาคสมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์เพื่อปล่อยปลาจากภายในงานวันประมงน้อมเกล้าฯ ไปยังสถานที่ต่าง ๆ อาทิ  ปล่อยปลาตะพัดเขียวเพื่อปล่อยสู่เขื่อนรัชประภาสุราษฏร์ธานี ปล่อยปลายี่สกแม่น้ำโขงคืนถิ่นจังหวัดมุกดาหาร ปล่อยพันธุ์ปลาลงสู่สระเก็บน้ำพระราม 9 ปทุมธานี ปล่อยปลากะพงขาวสู่ชายฝั่งทะเลระยอง ปล่อยปลาตะกรับ และปลากะพงแดง ลงสู่ชายหาดสงขลาและพังงา

กิจกรรมตรวจวิเคราะห์ดวงชะตาผ่านเส้นลายมือแห่งศาสตร์การอ่านลายมือ โดยสมาคมลิขิตบนฝ่ามือ ในธีม โปลิโป้ลายเส้นลิขิตโชคจากฝ่ามือ

พลาดไม่ได้กับกิจกรรม โชว์...ระทึก ใหญ่ และแปลก กับโชว์จระเข้ จัดแสดง “ไททั่น” จระเข้ยักษ์ ยักษ์ใหญ่แห่งลุ่มน้ำ พร้อมกับจระเข้น้ำจืด น้ำเค็ม ตะโขง จำหน่ายสินค้าและผลิตภัณฑ์จากจระเข้ และไฮไลต์ คือ แสดงโชว์การจับจระเข้ด้วยมือเปล่า

และในทุกวันพบความสนุกสนานมีสาระความรู้ กับโรงรื่นเริงบันเทิงสาระ นำเสนอกิจกรรมบนเวทีกลางที่เน้นความบันเทิง เพลิดเพลิน แต่สอดแทรกความรู้ผ่านกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ Game Workshop และ Talk Show

         สำหรับนิทรรศการทางการแพทย์ ทางคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ในปีนี้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล ได้เล็งเห็นถึงอันตรายจาก “พิษ” ที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา สารเคมีถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหลายภาคส่วน เนื่องจากเป็นวัตถุดิบสำคัญที่เกี่ยวข้องทั้งในภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร ภาคครัวเรือน รวมถึงการผลิตยารักษาโรค นำมาสู่การใช้สารเคมีอย่างไม่ถูกวิธีหรือไม่เหมาะสม ก่อให้เกิด “ภาวะเป็นพิษ” ซึ่งหากพิษเหล่านั้นปนเปื้อนในธรรมชาติจะก่อให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน บทบาทของศาสตร์แขนงหนึ่งที่มีชื่อว่า พิษวิทยา (Toxicology) จึงมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์เป็นอย่างมาก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดลเป็นหนึ่งในสองสถาบันของประเทศไทยที่มีการจัดตั้งศูนย์พิษวิทยาศิริราชขึ้นอย่างเป็นทางการ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพร่และพัฒนาความรู้อันเป็นองค์ประกอบสำคัญในการวินิจฉัย รักษา และป้องกันการเกิดภาวะพิษ พร้อมทั้งให้คำปรึกษาเกี่ยวกับยาต้านพิษและพิษวิทยาในเด็ก ด้วยบทบาทดังกล่าว ศูนย์พิษวิทยาศิริราช จึงถือเป็นหน่วยงานสำคัญในการสนับสนุนระบบการดูแลรักษาผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับสารพิษได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ดังนั้น ในปีนี้คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม. มหิดล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงจัดกิจกรรมภายใต้หัวข้อ “Tox Fun Fest - พิษวิทยาฉบับเข้าใจง่าย” ขึ้น

ศ. พญ.นันทกร ทองแตง รองคณบดีฝ่ายกิจการพิเศษและองค์กรสัมพันธ์ กล่าวถึงรายละเอียดและไฮไลต์ของนิทรรศการว่า “ภายในงานมีนิทรรศการทางการแพทย์มากมาย ได้แก่ นิทรรศการสารพัดพิษรอบบ้าน ชวนร่วมสังเกตและตระหนักถึงสารพิษรอบบ้านที่อาจจะมองข้ามผ่านห้องจำลอง อาทิ ห้องรับแขก ห้องครัว ห้องน้ำ เป็นต้น เนื่องจากหลายคนมักจะเปลี่ยนถ่ายสารจากบรรจุภัณฑ์เดิมมาใส่บรรจุภัณฑ์ใหม่ แต่ไม่เขียนระบุชื่อสารบนบรรจุภัณฑ์ นิทรรศการพืชพิษ (Toxic Plant) และสมุนไพรแก้พิษ พบกับสวนพืชมีพิษที่พบได้ทั่วไปในประเทศไทย พร้อมทั้งการบรรยายเกี่ยวกับพืชมีพิษและสมุนไพรแก้พิษ อาทิ เสลดพังพอนตัวเมียหรือพญายอ เสลดพังพอนตัวผู้ พญาไร้ใบ เมล็ดมะกล่ำตาหนู เป็นต้น นิทรรศการห้องปฏิบัติการทางพิษวิทยา ที่จะพาไปสนุกกับการทดลองเป็นนักวิทยาศาสตร์ภายในห้องปฏิบัติการ พร้อมมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่ต้องแชะภาพก่อนกลับ นิทรรศการศูนย์พิษวิทยา นำเสนอข้อมูลการให้บริการและช่องทางการติดต่อศูนย์พิษวิทยาศิริราช นิทรรศการการจัดธาตุเจ้าเรือน พบกับการให้ความรู้เกี่ยวกับธาตุเจ้าเรือนกับการดูแลสุขภาพตามศาสตร์การแพทย์แผนไทย และการจัดแสดงท่าฤๅษีดัดตน ที่จะได้ทดลองทำท่าฤๅษีดัดตนที่ถูกต้อง เหมือนต้นฉบับ

นอกจากนี้ ยังมีการตรวจธาตุเจ้าเรือน วัดมวลร่างกาย วัดความดัน และให้คำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพโดยแพทย์แผนไทยประยุกต์ โดยตรวจได้ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 - 18.00 น. อีกทั้งยังมีบริการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการใช้ยา พร้อมทั้งจำหน่ายยาตำรับศิริราชโดยเภสัชกรโรงพยาบาลศิริราช และผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรโดยอายุรเวทศิริราช”

 ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ร่วมสนับสนุนงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 16

คุณกัลยา กมลรัตน์ ผู้อำนวยการด้านการตลาด ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินนโยบายในการสนับสนุนพื้นที่สำหรับการจัดกิจกรรมของหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอย่างต่อเนื่อง
เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและพัฒนาสังคมในทุกมิติ

         โดยในปีนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ได้รับเกียรติร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงาน วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” ร่วมกับ กรมประมง และ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล นับเป็นปีที่ 16 ที่ศูนย์การค้าฯ ได้เป็นสถานที่จัดงานอันทรงคุณค่านี้

สำหรับการจัดงานในครั้งนี้ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์คและสเปลล์ ได้จัดสรรพื้นที่จัดงานรวมกว่า 7,000 ตารางเมตร ครอบคลุมพื้นที่ชั้น G ทั้งบริเวณ Alive Park Hall, Zpotlight, Cascata และพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด รวมถึงพื้นที่ใหม่บริเวณชั้น 2 ฝั่งเวสต์ เพื่อรองรับการจัดงานอย่างเต็มรูปแบบ

พิเศษสุดในปีนี้! เนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปีของศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค  ศูนย์การค้าฯ ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท เนรมิตพื้นที่จัดงานในบรรยากาศสุดตระการตาภายใต้ธีม Festival เพื่อร่วมเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญ พร้อมเติมเต็มสีสันและสร้างประสบการณ์สุดพิเศษให้กับผู้เข้าร่วมงาน อาทิ

  • “Interactive Fishing Game” เกมตกปลาเสมือนจริง ขนาดยักษ์ กว่า 10 เมตร บริเวณ Cascata

ให้ได้ร่วมประชันความแม่น แข่งขันความไว ลุ้นรับ Gift Voucher ทุกวัน

  • กิจกรรม “Rally Check-In จับสัตว์น้ำ” 30 จุดทั่วทั้งศูนย์การค้า ร่วมสนุกแลกรับของที่ระลึกสุดน่ารัก!
    • เช็กอินครบ 5 จุด: รับบัตรเข้าชมงานประมงน้อมเกล้าฯ ฟรี 2 ใบ
    • เช็กอินครบ 15 จุด: รับกระเป๋าฟิวเจอร์คอลเลคชัน 30 ปี
    • เช็กอินครบ 30 จุด: รับตุ๊กตาคอลเลคชันพิเศษสุดน่ารักที่จัดทำเฉพาะงานนี้เท่านั้น จระเข้ฟิว” และ โลมาเปลล์”

          ร่วมสัมผัสความยิ่งใหญ่ของโลกใต้น้ำที่จะพาทุกท่านตระการตา ในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ” ครั้งที่ 35 ได้ ตั้งแต่วันที่ 27 มิถุนายน - 6 กรกฎาคม 2568 เวลา 10.00 น – 20.00 น. ณ ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค ค่าบัตรผ่านประตูเพียง 20 บาท โดยรายได้ทั้งหมดในงานจะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายสมทบทุนมูลนิธิจุฬาภรณ์

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม :

กรมประมง กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์  โทร.0-2562-0569

งานสื่อสารองค์กร  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล                     

ข่าว - ข้อมูลสัตวน้ำ

แถลงข่าววันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35

 

โทร.0-2419-8992

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ศูนย์การค้าฟิวเจอร์พาร์ค                                                                        

โทร 0-2958-0011 ต่อ 1162 , 1886 , 1036 , 1026

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568

สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ จับมือผู้ใหญ่ใจดี ร่วมทำกิจกรรม “จิตอาสาแบ่งปันเพื่อน้อง”

 

สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ จับมือผู้ใหญ่ใจดี ร่วมทำกิจกรรม จิตอาสาแบ่งปันเพื่อน้องมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬา และสนับสนุนด้านการเกษตรแก่โรงเรียนขนาดเล็ก

 



สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย นำโดยนายภิญโญ แพงไธสง นายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตร พร้อมคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ร่วมกับผู้ใหญ่ใจดี ทั้งภาครัฐและเอกชนกว่า 10 ราย จัดกิจกรรม จิตอาสาแบ่งปันเพื่อน้องมอบทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬา ชุดนักเรียน เมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์ปลา พันธุ์ไก่ ขนมและของเล่น ให้แก่นักเรียนชั้นอนุบาลและประถม โรงเรียนบ้านสายชนวน ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันเสาร์ที่ 7 มิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา

 





นายภิญโญ แพงไธสง นายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย กล่าวถึงการจัดกิจกรรมครั้งนี้ ว่าเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อสังคมที่สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ ได้ดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นประจำ โดยในปีนี้ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน มอบทุนการศึกษา อุปกรณ์กีฬา ชุดนักเรียน เมล็ดพันธุ์พืช พันธุ์ปลาตะเพียนขาว ไก่พันธุ์ไข่ ขนมและของเล่น ให้แก่นักเรียนชั้นอนุบาลและประถมของโรงเรียนบ้านสายชนวน ต.จันทึก อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นโรงเรียนขนาดเล็กที่ยังต้องการการสนับสนุนในหลายด้าน 






กิจกรรมในครั้งนี้ สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ ได้เข้าไปสนับสนุนอุปกรณ์กีฬาให้แก่โรงเรียนบ้านสายชนวนตามคำขออนุเคราะห์ และยังได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากผู้ใหญ่ใจดี หน่วยงานภาครัฐและเอกชน ที่เล็งเห็นความสำคัญของการสนับสนุนด้านการศึกษา ให้ความสนใจเข้าร่วมสนับสนุนกิจกรรมโดยการมอบทุนการศึกษา ชุดนักเรียน และสิ่งของจำเป็นต่าง ๆ อาทิ กรมประมง สนับสนุนพันธุ์ปลาตะเพียนขาว บริษัทเจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) สนับสนุนไก่พันธุ์ไข่ บริษัทอีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด (ตราศรแดง) และบริษัทแอ๊ดว้านซ์ซีด จำกัด (ตราตะวันต้นกล้า) สนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืช สาลิกาฟาร์ม กุ้งไทย เอเชียน สนับสนุนกุ้งต้มและกุ้งสดในการประกอบอาหารให้นักเรียน บริษัทพัดโอเดนย่า จำกัด และบริษัทโคโคริ จำกัด สนับสนุนขนมขบเคี้ยว บริษัท พีแอนด์เอฟ เทคโน จำกัด ร่วมสนับสนุนทุนในการสร้างโรงเรือนเลี้ยงไก่ สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษา บริษัทสยามคูโบต้า จำกัด สนับสนุนกระเป๋าสะพายให้เด็ก ๆ และนายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์ อธิบดีกรมการข้าว ร่วมสนับสนุนชุดนักเรียนให้นักเรียนทุกคน ๆ ละหนึ่งชุด นอกจากนี้สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ ยังได้รับการสนับสนุนจากฟอร์ด ประเทศไทย ในการนำรถยนต์กระบะฟอร์ด เรนเจอร์ ร่วมเดินทางเพื่อขนสัมภาระนำมามอบให้แก่โรงเรียนบ้านสายชนวนในกิจกรรมครั้งนี้ด้วยนายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทยกล่าว



ด้าน นางสาวปริญญาณัฐ วิเลิศ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านสายชนวน กล่าวเพิ่มเติมว่า รู้สึกยินดีและขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดี และสมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯ ในการมอบอุปกรณ์กีฬา รวมถึงทุนการศึกษา และสิ่งของต่าง ๆ ให้แก่ทางโรงเรียน ซึ่งโรงเรียนบ้านสายชนวนนั้นจัดเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก ที่มีนักเรียนอยู่ประมาณ 53 คน แต่ก็ยังต้องการการสนับสนุนในหลายด้าน เพื่อให้นักเรียนได้รับสวัสดิภาพที่ดี  ซึ่งการสนับสนุนในครั้งนี้ นอกจากจะเป็นประโยชน์แก่นักเรียนโดยตรงแล้ว ยังเป็นกำลังใจให้แก่บุคลากรครูได้เห็นว่าสังคมยังพร้อมสนับสนุนและไม่ทอดทิ้งกัน







ศูนย์ฯ คุ้งกระเบน หนุนเกษตรกรแตกไลน์แปรรูป “น้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเล” ยกระดับสินค้า เพิ่มมูลค่า

  ศูนย์ฯ คุ้งกระเบน หนุนเกษตรกรแตกไลน์แปรรูป “ น้ำพริกสาหร่ายผักกาดทะเล ” ยกระดับสินค้า เพิ่มมูลค่า เข้าถึงผู้บริโภคง่าย ได้มาตรฐาน อย. ศู...