กระทรวง อว. จับมือ รร.นายร้อยตำรวจ
ป้องกันอาชญากรรมทั้งการกระทำความผิดและการตกเป็นเหยื่อในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
โดยใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยี
ทักษะเอาตัวรอดเมื่อต้องเผชิญเหตุและสร้างระบบสภาพแวดล้อมในพื้นที่
เมื่อวันที่ 16 มี.ค. ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รมว.กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ “การเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมในเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ”
ระหว่างกระทรวง อว. กับ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เข้าร่วม ทั้งนี้
มี ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ปลัดกระทรวง อว. และ พล.ต.ท.ดร.เสนิต สำราญสำรวจกิจ
ผู้บัญชาการโรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นผู้ร่วมลงนาม ที่สำนักงานปลัดกระทรวง อว.
ศ.(พิเศษ) ดร.เอนก กล่าวว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและสภาวการณ์ของสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงส่งผลให้ปัญหาอาชญากรรมมีการพัฒนารูปแบบไปตามยุคสมัยและถือเป็นภัยใกล้ตัวที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อตัวบุคคลและความสงบเรียบร้อยของสังคม
ดังนั้นการจัดการกับปัญหาโดยเฉพาะการป้องกันจึงเป็นประเด็นเร่งด่วนที่ทุกภาคส่วนจะต้องบูรณาการการดำเนินงานร่วมกันอย่างเป็นระบบ
โดยเฉพาะกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการบ่มเพาะกำลังคนสมรรถนะสูงที่จะเป็นกำลังหลักของประเทศในอนาคตในการนำองค์ความรู้และนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้สำหรับการป้องกันอาชญากรรมให้ครอบคลุมทั้งมิติของการป้องกันการกระทำความผิดและมิติของการป้องกันการตกเป็นเหยื่อ
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม
ด้าน ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ กล่าวว่า
ความร่วมมือครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อเผยแพร่องค์ความรู้ด้านการป้องกันอาชญากรรมและการประยุกต์ใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีสำหรับการป้องกันอาชญากรรรมในเครือข่ายมหาวิทยาลัย
ทั่วประเทศและเพื่อสร้างระบบสภาพแวดล้อมการป้องกันอาชญากรรมในพื้นที่มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
รวมทั้งส่งเสริมทักษะการเอาตัวรอดแก่บุคลากรของมหาวิทยาลัย
นักศึกษาหรือประชาชนในพื้นที่โดยรอบ
เมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการเกิดอาชญากรรม นอกจากนี้
ยังรวมไปถึงการค้นคว้าวิจัยเพื่อสร้างนวัตกรรมทางสังคมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม
โดยเฉพาะในกระบวนการป้องกันอาชญากรรมทั้งในระดับจุลภาคและมหภาค
โดยความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี
ขณะที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์
กล่าวว่า โรงเรียนนายร้อยตำรวจ เป็นสถาบันอุดมศึกษาเฉพาะทางวิชาชีพตำรวจ มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อผลิตบุคลากรในวิชาชีพตำรวจ
ตามความต้องการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยเน้นทักษะความเชี่ยวชาญ
ด้านการบังคับใช้กฎหมาย และวิชาชีพตำรวจเป็นสำคัญ
รวมทั้งสนับสนุนทางด้านวิชาการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยในปัจจุบันโรงเรียนนายร้อยตำรวจ
มีนโยบายด้านการส่งเสริมวิชาการ การเรียนการสอน
การทำวิจัยการฝึกอบรม และการบริการทางวิชาการแก่สังคม
เน้นทักษะความเชี่ยวชาญด้านการบังคับใช้กฎหมายและวิชาการตำรวจ รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุน การสร้างเครือข่ายความร่วมมือทางวิชาการ
เพื่อพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางวิชาการ องค์ความรู้
และทักษะประสบการณ์ อันจะนำมาซึ่งการอำนวยประโยชน์ทางวิชาการระหว่างหน่วยงาน
การบูรณาการสหศาสตร์ และการต่อยอดทางองค์ความรู้ อย่างไม่มีที่สิ้นสุด
โดยเฉพาะการดำเนินการร่วมกับเครือข่ายมหาวิทยาลัยทั่วประเทศ
ซึ่งเป็นองค์กรหลักในการบ่มเพาะกำลังคนสมรรถนะสูงที่จะเป็นกำลังหลักของประเทศในอนาคต
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
กล่าวอีกว่า ปัจจุบันปัญหาอาชญากรรมมีแนวโน้มของความรุนแรงและมีรูปแบบที่ซับซ้อนมากขึ้น
โดยสิ่งที่สะท้อนได้อย่างชัดเจนคือ
สถิติคดีอาชญากรรมรูปแบบใหม่ที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละปีและข่าวสารที่สื่อแขนงต่างๆ
มีการนำเสนอข่าวการตกเป็นเหยื่อคดีอาชญากรรม และความเสียหายจากปัญหาอาชญากรรมอย่างต่อเนื่อง
แม้สังคมต้องประสบกับวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19
แต่ปัญหาอาชญากรรมที่มีการวิวัฒนาการตามการเปลี่ยนแปลง
ยังคงเป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของสังคม
เพราะถือเป็นภัยใกล้ตัวที่อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อบุคคล และความสงบเรียบร้อยของสังคมในภาพรวม ดังนั้น
การจัดการกับปัญหาอาชญากรรม จำเป็นต้องบูรณาการความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งในเชิงวิชาการและเชิงปฏิบัติการ
เพื่อระดมองค์ความรู้ นวัตกรรมทางเทคโนโลยี
และบุคลากรที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญ ในการค้นคว้าวิจัย และการสร้างนวัตกรรมที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคม โดยเฉพาะการจัดการกับปัญหาอาชญากรรม
ที่จะต้องดำเนินการให้ครอบคลุม ทั้งในมิติของการป้องกันการกระทำความผิด และมิติของการป้องกันการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรม
ในรูปแบบต่างๆ ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงขึ้น อาทิ การฉ้อโกงออนไลน์ การหลอกลงทุน คอลเซ็นเตอร์
การกราดยิง เป็นต้น
“โรงเรียนนายร้อยตำรวจ
ในฐานะสถาบันการศึกษาที่มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญด้านการป้องกันอาชญากรรม
สามารถที่จะเข้ามามีบทบาทในการประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่นักศึกษา อาจารย์ บุคลากร
และประชาชนทั่วไป ในการป้องกันการตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมสมัยใหม่
โดยเฉพาะการให้วัคซีนทางไซเบอร์ เพื่อให้มีความรู้เท่าทันอาชญากรรมไซเบอร์
ซึ่งมีแนวโน้มจะเกิดขึ้นอย่างแพร่หลายและสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในสังคมปัจจุบัน การจับมือร่วมกันในครั้งนี้ ได้เล็งเห็นความสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหาอาชญากรรม
รวมทั้งการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างหน่วยงาน อันจะก่อให้เกิดความเข้มแข็งทางองค์ความรู้ และสามารถนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้สำหรับการป้องกันอาชญากรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างเสริมให้สังคมปลอดภัยจากอาชญากรรม มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน
และมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์
กล่าว
//////////////