วันอาทิตย์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2567

หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน

 



หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ต่อยอดความสำเร็จธนาคารน้ำใต้ดิน สร้างความมั่นคงทรัพยากรน้ำ

 

น้ำคือทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญยิ่ง ทั้งใช้ในการอุปโภค บริโภค ในครัวเรือน ภาคเกษตร และภาคอุตสาหกรรม การบริหารจัดการน้ำที่ดีย่อมทำให้มีทรัพยากรน้ำไว้ใช้ได้อย่างเพียงพอ นวัตกรรม 'ธนาคารน้ำใต้ดิน' นับเป็นหนึ่งในการบริหารจัดการน้ำแบบสมดุลที่เหมาะสมอย่างยิ่ง ในการรับมือภัยแล้งและน้ำท่วม จากความแปรปรวนของสภาวะอากาศที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น

 





วันนี้ พาขึ้นเหนือไปจังหวัดกำแพงเพชร เพื่อชมความสำเร็จของ หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงพชร ต.เทพนคร อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ที่นอกจากจะเป็นหมู่บ้านต้นแบบ ชุมชนคนเลี้ยงหมูแล้ว ที่นี่ยังเดินหน้าโครงการธนาคารน้ำใต้ดิน จนปรากฏผลอย่างเป็นรูปธรรม

 

พิเชษฐ์ ใหญ่แก่นทราย ประธานหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร เล่าที่มาว่า โครงการหมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร ประสบปัญหาการระบายน้ำท่วมขังจากน้ำฝนในบริเวณพื้นที่โครงการฯ มาอย่างยาวนาน ชาวชุมชนจึงได้ร่วมกันศึกษาค้นคว้าวิธีการแก้ปัญหา จนมาพบกับรูปแบบการบริหารจัดการน้ำผิวดินสู่ใต้ดิน (Ground Water Recharge) หรือการทำธนาคารน้ำใต้ดิน ทั้งแบบบ่อปิดและแบบบ่อเปิด ที่ช่วยลดปัญหาปริมาณน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝน ทำให้สามารถนำพื้นที่กลับมาใช้ประโยชน์ทางการเกษตรได้อย่างยั่งยืน

 



การดำเนินโครงการฯ ตามกลยุทธ์ ขีด คิด ร่วม ข่ายจากการนำ ขีดความสามารถของบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญด้านการจัดการระบบน้ำมาขับเคลื่อนโครงการฯ ภายใต้การสนับสนุนของผู้บริหารหมู่บ้านฯ ร่วมกับทีมงานของ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ ที่มาร่วม คิดนำแนวคิดนวัตกรรมสู่ความยั่งยืนด้วยการทำธนาคารน้ำ ที่ช่วยลดปัญหาปริมาณน้ำท่วมขัง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการน้ำและนำพื้นที่กลับมาใช้ประโยชน์ ผ่านการมีส่วน ร่วมของทีมงานและผู้มีส่วนได้เสียทั้งหมด ที่ร่วมกันสนับสนุนร่วมถึงวางแผนงานโครงการ และร่วมพัฒนาแหล่งเรียนรู้ นอกจากนี้ ยังมีการสร้างเครือ ข่ายความร่วมมือกับเครือข่ายเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยทุกฝ่ายร่วมกันพัฒนาแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชุมชนและหน่วยงานต่างๆ

 





โครงการฯนี้ เริ่มต้นจากการศึกษาดูงานความสำเร็จของโครงการธนาคารน้ำใต้ดินของ หมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อนำความรู้ที่ได้มาประยุกต์ใช้ และถ่ายทอดต่อไปยังเกษตรกร ขณะเดียวกัน ได้เชิญวิทยากรจาก อบต.วังหามแห จ.กำแพงเพชร มาบรรยายให้ความรู้ และทำ Work shop ร่วมกันทั้งชาวชุมชน เกษตรกร และทีมงาน รวมทั้งเชิญผู้เชี่ยวชาญจากหมู่บ้านเกษตรกรรมหนองหว้า มาให้คำแนะนำโครงการฯ กระทั่งสามารถสร้างระบบธนาคารน้ำใต้ดิน ทั้งรูปแบบบ่อปิดและแบบบ่อเปิด รวม 10 บ่อในพื้นที่โครงการ

 

ธนาคารน้ำใต้ดิน เป็นการบริหารจัดการน้ำใต้ดินแบบครบวงจร ช่วยแก้ไขปัญหาทั้งปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม และน้ำหลาก และยังช่วยป้องกันการสูญเสียสมดุลของน้ำใต้ดิน หลังจากดำเนินโครงการฯนี้แล้ว สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมขังในช่วงฤดูฝนได้เป็นอย่างดี ช่วยเพิ่มพื้นที่ทางการเกษตรให้กับชุมชน ทั้งยังสร้างสุขอนามัยที่ดีให้กับเกษตรกร ปัจจุบันได้พัฒนาเป็นศูนย์เรียนรู้การบริหารการจัดการกักเก็บน้ำใต้ดิน ถ่ายทอดองค์ความรู้และเป็นสถานที่ศึกษาดูงานของหน่วยงาน และน้องๆนักเรียนนักศึกษาในพื้นที่ และวางแผนต่อยอดสู่การเป็นศูนย์เรียนรู้หลักสูตรชลกร ร่วมกับวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีกำแพงเพชรต่อไปพิเชษฐ์ กล่าว

 



การดำเนินโครงการตลอดปี 2566 ที่ผ่านมา ธนาคารน้ำใต้ดินทั้ง 10 บ่อ มีส่วนช่วยเพิ่มพื้นที่ทำการเกษตรในโครงการหมู่บ้านฯ ได้ถึง 50 ไร่ นอกจากนี้ ยังขยายผลสู่ โครงการ 1 บ้าน 1 บ่อส่งเสริมการสร้างบ่อระบบปิดในบ้านเกษตรกรในโครงการฯ นำร่องแล้ว 12 ครัวเรือน และวางเป้าหมายขยายโครงการฯ ให้กับเกษตรกรทั้งหมู่บ้านสุกรพันธุ์และสุกรขุนครบทั้ง 40 ครัวเรือน ภายในปี 2567 นี้

 

วันนี้หมู่บ้านเกษตรกรรมกำแพงเพชร สามารถแก้ปัญหาของพวกเขาด้วยนวัตกรรมธนาคารน้ำใต้ดิน โดยการฝากน้ำไว้กับดิน ที่ช่วยแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขัง และป้องกันปัญหาภัยแล้ง ทำให้มีน้ำใช้ในการเลี้ยงสุกรและการเพาะปลูกได้ตลอดทั้งปี ช่วยสร้างความมั่นคงด้านทรัพยากรน้ำอย่างเป็นรูปธรรม

 

หมู่บ้านแห่งนี้ยังคงเดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้การสนับสนุนของเครือซีพีและซีพีเอฟ ทั้งด้านการสร้างอาชีพมั่นคงยั่งยืนจากการเลี้ยงหมู และมีรายได้จากการเพาะปลูกพืช ปลูกผักกระเฉดน้ำ เลี้ยงปลาดุก-ปลาสวาย และปุ๋ยมูลสุกรตากแห้ง ที่เป็นอาชีพเสริม ดังที่ดำเนินการมาตลอด 45 ปีที่ผ่านมา เพื่อให้ที่นี่เป็น หมู่บ้านสามัคคี เทคโนโลยีทันสมัย พัฒนาก้าวไปอย่างยั่งยืน”./

 

คลิกชมคลิป >> https://youtu.be/DI8gAjRPdrY

วันอังคารที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2567

สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียง​ จำกัด​ รุกเพิ่มค่าสินค้าเกษตรดัน”เฮงาะเลอทิญบ้านป่าแป๋”เป็นข้าวจีไอ(GI)

 



 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน เร่งขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 ที่ได้รับงบสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ จำนวน 43,450 บาท เพื่อส่งเสริมและพัฒนาเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นข้าวเฮงาะเลอทิญบ้านป่าแป๋(HaaoLeTin Brown Rice) แห่งเมืองสามหมอก  

 


ภายหลังมีการประชุมร่วมกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียง จำกัด ผู้นำชุมชนบ้านป่าแป๋  ณ หอประชุมโรงเรียนเจ้าพ่อหลวงอุปถัมภ์ 10 ม.3 ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง เมื่อกลางเดือนมีนาคม 2567 ที่ผ่านมาเพื่อผลักดันให้มีการขึ้นทะเบียนข้าวเฮงาะเลอทิญ บ้านป่าแป๋เป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์หรือสินค้าจีไอ(GI) 

 

 นางสาวอมรรัตน์ ไอ่จันทร์ หัวหน้าฝ่ายบัญชี สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียง จำกัด ซึ่งได้เข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เปิดเผยว่ารู้สึกดีใจและขอบคุณที่หน่วยราชการเห็นความสำคัญข้าวพื้นเมืองดั้งเดิมของชนเผ่าละว้าอย่างข้าวเฮงาะเลอทิญที่ได้ร่วมผลักดันและยกระดับให้เป็นสินค้าจีไอ(GI)เพื่อจะได้เพิ่มมูลค่าและเป็นที่รู้จักของสาธารณชนมากขึ้น ปัจจุบันสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียง จำกัดได้รวบรวมผลผลิตข้าวเฮงาะเลอทิญจากสมาชิกที่มีทั้งหมด 235 ราย ได้ปริมาณผลผลิตรวมเฉลี่ย 10 ตันต่อปี ส่วนใหญ่ส่งจำหน่ายให้กับโครงการหลวง สนนในราคากิโลกรัมละ 12-13 บาท โดยผลผลิตดังกล่าวส่วนหนึ่งจะเก็บพันธุ์ไว้เพื่อจะปลูกในฤดูถัดไป

 





สมาชิกส่วนใหญ่กว่า 90%จะปลูกข้าวเฮงาะเลอทิญเป็นอาชีพหลัก แต่ข้าวชนิดนี้เป็นข้าวนาปี ปลูกได้ปีละครั้งเท่านั้น เป็นข้าวมาตรฐานจีเอพี(GAP)  ขณะเดียวกันสมาชิกก็จะปลูกพืชผัก ไม้ผลเมืองหนาวด้วยเพื่อจะได้มีรายได้เสริม ปัจจุบันผลผลิตข้าวทั้งหมดส่งขายให้กับโครงการหลวง ส่วนหนึ่งก็นำมาแปรรูปเป็นข้าวกล้องบรรจุถุง ๆ ละ 1 กิโลกรัมขายผ่านออนไลน์ทางเว็บเพจสหกรณ์ฯ  สนนในราคาถูงละ 50 บาทและอีกส่วนสมาชิกจะเก็บไว้เพื่อใช้เป็นเมล็ดพันธุ์เพาะปลูกในฤดูถัดไปนางสาวอมรรัตน์เผย

 


สำหรับข้าวเฮงาะเลอทิญบ้านป่าแป๋ เป็นข้าวเจ้าพันธุ์ดั้งเดิมแท้  มีประวัติมาอย่างยาวนานของชนเผ่าลั้วะหรือละว้า ซึ่งคำว่า "เฮงาะ" ในภาษาละว้าหมายถึง ข้าว มีลักษณะเมล็ดสั้นและใหญ่ ข้าวนิ่ม หุงขึ้นหม้อ มีสารแกมมาออไรซานอลต้านอนุมูลอิสระ อุดมไปด้วยวิตามินต่างๆ ที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย อาทิ วิตามินบี 1, วิตามิน บี 6 ช่วยบำรุงประสาท มีคุณสมบัติป้องกันโรคเหน็บชา ช่วยในเรื่องระบบขับถ่าย มีโปรตีน ช่วยในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อ และมีธาตุสังกะสีที่ช่วยระบบการไหลเวียนของเลือด ปลูกกันมากในเขตพื้นที่ตำบลบ้านป่าแป๋ และเป็นการปลูกในลักษณะบนนาแบบขั้นบันได

 

                หัวหน้าฝ่ายบัญชี สหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียงยังกล่าวขอบคุณสำนักงานสหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอนที่ส่งเจ้าหน้าที่ดูแลคอยให้คำแนะนำทั้งในเรื่องกระบวนการผลิต ระบบการบริหารจัดการองค์กร ตลอดจนดูแลเรื่องการตลาด พร้อมทั้งให้การสนับสนุนการแปรรูปเพิ่มมูลค่าข้าว นอกจากนี้ยังขอบคุณท่านอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ ที่ให้คำแนะนำที่ดี ในแง่มุมต่าง ๆ เมื่อครั้งที่ท่านและคณะมาเยี่ยมชมกิจการของสหกรณ์ฯเมื่อปีก่อนด้วย



                ปัจจุบันผลผลิตข้าวเปลือกเกือบทั้งหมดที่รวบรวมจากสมาชิกเฉลี่ย 10 ตันต่อปีส่งให้กับทางโครงการหลวงกิโลกรัมละ 12-13 บาท ตอนนี้สหกรณ์ต้องการจะนำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่าเองทั้งหมดไม่ต้องการขายเป็นข้าวเปลือก ทั้งนี้ เพื่อสร้างรายได้เพิ่มให้กับสมาชิกและสหกรณ์ฯ จึงฝากเรียนท่านอธิบดีฯพิจารณาเรื่องนี้ด้วยค่ะนางสาวอมรรัตน์กล่าววิงวอน

             อย่างไรก็ตามข้าวเฮงาะเลอทิญ บ้านป่าแป๋ เป็นข้าวนาปีปลูกได้ปีละครั้ง เริ่มปลูกตั้งแต่เดือนพฤษภาคมและมิถุนายนแล้วจะไปเก็บเกี่ยวในเดือนพฤศจิกายนหรือธันวาคมปีเดียวกัน ทว่าหลังการเก็บเกี่ยวข้าว ก็ปล่อยให้ตอซังเน่าคาแปลง บางส่วนนำไปเป็นอาหารโค กระบือ จากนั้นที่นาก็ถูกแปลงให้เป็นพื้นที่ปลูกผักหลากหลายชนิดโดยการสนับสนุนส่งเสริมจากทางโครงการหลวง โดยมีการจัดการแปลงปลูกด้วย GP (green productivity) และผลผลิตที่ได้ก็ส่งจำหน่ายให้กับทางโครงการหลวง

                นายเอกรินทร์ ปอสอ สมาชิกสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียง จำกัดเคยกล่าวไว้เมื่อครั้งหลังได้รับคัดเลือกเป็นสมาชิกสหกรณ์ฯในพื้นที่โครงการหลวงดีเด่น ประจำปี 2564 โดยระบุว่าการผลิตพืชผักให้กับโครงการหลวง จะผลิตใน 2 รูปแบบได้แก่ ปลูกผักอินทรีย์ และปลูกผักระบบ GAP โดยทางโครงการหลวงจะมีนักวิชาการมาแนะนำกระบวนการผลิตในทุกขั้นตอน จากนั้นสหกรณ์ฯจะรวบรวมผลผลิตขอสมาชิกส่งให้ทางโครงการหลวงอีกทอดหนึ่ง

              อยากจะขอบคุณสหกรณ์กับโครการหลวง เพราะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยในการทำการเกษตรในพื้นที่ตั้งแต่การสนับสนุนโรงเรือนเพาะปลูกปัจจัยการผลิตตั้งแต่ปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ ข้อมูลวิชาการที่ดีในการเพาะปลูก  ทางสหกรณ์ก็จะทำการตลาดให้  ทำให้มีรายได้อย่างต่อเนื่อง ทุนก็เอามาจากสหกรณ์ก่อนแล้วจ่ายคืนทีหลังสมาชิกสหกรณ์ฯคนเดิมกล่าว

 

 ด้าน นายพัทยา ธรรมสอน   ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจสหกรณ์  สำนักงานสหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่าในปีงบประมาณ พ.ศ.2567 นี้ สำนักงานสหกรณ์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับงบสนับสนุนจากกรมส่งเสริมสหกรณ์ จำนวน 43,450 บาท เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่ม พัฒนาศักยภาพด้านการตลาดและพยายามผลักดันข้าวพื้นเมืองพันธุ์ดังกล่าวให้ได้รับสินค้าจีไอ(GI) ด้วย  ทั้งนี้เพื่อสร้างอาชีพและรายได้เพิ่มให้กับสมาชิกสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียงและเกษตรกรชาวแม่ฮ่องสอน

 


  อย่างไรก็ตามผู้สนใจผลิตภัณฑ์ข้าวกล้องเฮงาะเลอทิญ บ้านป่าแป๋ บรรจุถุง 1 กิโลกรัมถุงละ 50 บาท ติดต่อได้ที่สำนักงานสหกรณ์การเกษตรโครงการหลวงแม่สะเรียง จำกัด   ต.ป่าแป๋ อ.แม่สะเรียง    จ.แม่ฮ่องสอน โทร. 09-3317-9797                     

………………………………………………

วันพฤหัสบดีที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2567

4 สมาคมสื่อฯ จับมือ เครือซีพี มอบทุนการศึกษา “ซีพีเพื่อยุวชนครอบครัวคนข่าว”

 


4 สมาคมสื่อฯ จับมือ เครือซีพี มอบทุนการศึกษา “ซีพีเพื่อยุวชนครอบครัวคนข่าว” ต่อเนื่องปีที่ 3 ส่งเสริมเด็กรุ่นใหม่ให้มีค่านิยมแห่งความกตัญญู

 

เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2566 – สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และกลุ่มสื่อ New Media ร่วมกับ เครือเจริญโภคภัณฑ์ มอบทุนการศึกษา “ซีพีเพื่อยุวชนครอบครัวคนข่าว” แก่บุตรธิดาของสมาชิกองค์กรสื่อต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จำนวน 100 ทุน ทุนละ 10,000 บาท รวม 1,000,000 บาท ประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ จำนวน 30 ทุน สมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ จำนวน 21 ทุน  สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย จำนวน 21 ทุน สมาคมสื่อมวลชนเกษตรฯจำนวน 16 ทุน และกลุ่มสื่อ New Media จำนวน 12 ทุน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมด้านการศึกษา และเพื่อปลูกฝัง “ความกตัญญู” แก่เด็กและเยาวชนไทย โดยคัดเลือกผ่านการทำคลิป TikTok สื่อสารเรื่องราว “กตัญญู ทำได้ทุกวัน” โดยมีนายสุภกิต เจียรวนนท์ ประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นประธานในพิธีมอบทุนการศึกษาฯแก่ยุวชนครอบครัวคนข่าว   ผ่าน 4 สมาคมองค์กรสื่อฯได้แก่  นางสาวน.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย นางสาวดวงพร อุดมทิพย์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ นายภิญโญ แพงไธสง นายกสมาคมสื่อมวลชนเกษตรเเห่งประเทศไทย นายศักดิ์ชัย พฤฒิภัค กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย โดยมีผู้บริหารระดับสูง เครือเจริญโภคภัณฑ์และบริษัทในเครือฯ ร่วมด้วย อาทิ ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์   นางพรรณินี นันทพาณิช ผู้บริหารด้านสื่อสารองค์กรและประชาสัมพันธ์ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร คุณเทียนชัย จูพัฒนกุล รองกรรมการผู้จัดการ ด้านสื่อสารองค์กรและกิจกรรมเพื่อสังคม ธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่งและบริการ นางเอื้อมพร สิงหกาญจน์  ผู้จัดการทั่วไป  สำนักบริหารการสื่อสารองค์กร บมจ. ซีพี ออลล์ นางสาวกนกรัตน์ จุฑานนท์ ผู้จัดการอาวุโส ฝ่ายสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) นางสาวชัญญรัช พีราวัชร ผู้จัดการทั่วไปอาวุโส บริษัท ซีพีแรม จำกัด เป็นต้น และบุตรธิดาของครอบครัวคนข่าวผู้ได้รับทุนจำนวน 100 คน พร้อมด้วยครอบครัวร่วมงานอย่างคับคั่ง ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 ทรู ดิจิทัล พาร์ค

 


ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหาร ยุทธศาสตร์ข้อมูลและการสื่อสาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงของโลกในยุคปัจจุบัน สื่อมวลชนเป็นหนึ่งในฟันเฟืองสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ  และเป็นเหมือนห้องเรียนขนาดใหญ่ของสังคมไทย ด้วยเพราะมีหน้าที่และมีความสำคัญในการให้ข่าวสารข้อมูลเรื่องราวและความรู้ที่ทันโลก ให้การศึกษา ให้ข้อเท็จจริงต่าง ๆ  สำหรับทุนการศึกษาซีพีเพื่อยุวชนครอบครัวคนข่าวถือเป็นการสนับสนุนด้านการศึกษาแก่บุตรธิดาของครอบครัวคนข่าวซึ่งถือเป็นผู้ที่ทำประโยชน์เพื่อสังคมและประเทศ  การให้ทุนการศึกษาจะไปเป็นค่าใช้จ่ายที่ช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัวคนข่าว และยังเป็นการปลูกฝังเด็กและเยาวชนรุ่นใหม่ให้มียึดมั่นในความกตัญญู สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ 3 ประธานเครือฯ ได้แก่ ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ท่านประธานกรรมการสุภกิต เจียรวนนท์ และท่านประธานคณะผู้บริหารศุภชัย เจียรวนนท์ ที่ยึดมั่นและเชื่อในคุณค่า “ความกตัญญู  ซึ่งถือเป็นความพิเศษของทุนการศึกษานี้ ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุนการศึกษานี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยปลูกฝังความกตัญญูแก่สังคมไทยผ่านพลังของคนรุ่นใหม่ เช่น ความกตัญญูต่อพ่อแม่ผู้มีพระคุณถือเป็นรากฐานสำคัญในการส่งต่อความดีช่วยเหลือคนรอบข้างโดยไม่หวังผลตอบแทน ไปจนถึงความกตัญญูต่อแผ่นดินภูมิใจในความเป็นชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์  การมอบทุนการศึกษาร่วมกับ 4 สมาคมสื่อฯ ในครั้งนี้ จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นส่งเสริมค่านิยมความกตัญญู พร้อมกับการร้อยเรียงความดีสู่สังคมในวงกว้างมากขึ้น

 



นางสาวน.รินี เรืองหนู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า  สมาคมนักข่าวฯ พร้อมด้วยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจฯ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมสื่อมวลชนเกษตรแห่งประเทศไทย และกลุ่มสื่อ New Media  ได้ร่วมกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินโครงการทุนการศึกษา “ซีพีเพื่อยุวชนครอบครัวคนข่าวต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 เพื่อสนับสนุนด้านการศึกษาแก่บุตรธิดาของสื่อมวลชน ที่สำคัญเพื่อแบ่งเบาภาระของครอบครัวคนข่าว พร้อมส่งเสริมปลูกฝังเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้มีค่านิยมแห่งความกตัญญู ด้วยการคัดเลือกคลิป TikTok สื่อสารเรื่องราว “กตัญญู ทำได้ทุกวัน” โดยเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่มีเยาวชนคนรุ่นใหม่จากครอบครัวคนข่าวในทุกระดับชั้นเรียนให้ความสนใจเข้าร่วมส่งคลิป TikTok และนำเสนอมุมมองแนวคิดความกตัญญูในหลายมิติ ทั้งความกตัญญูต่อพ่อแม่ผู้มีพระคุณ การช่วยเหลือคนรอบข้างโดยไม่หวังผลตอบแทน ไปจนถึงความรักและความภาคภูมิใจในความเป็นไทย

 เครือข่ายสมาคมสื่อฯ มีความรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับพันธมิตรในวงการสื่อมวลชนและเครือซีพีปลูกฝังค่านิยมความกตัญญูผ่านคนรุ่นใหม่ ซึ่งถือเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศ โดยเครือข่ายสมาคมสื่อฯ พร้อมร่วมมือสื่อสารผลักดันแนวคิดความกตัญญู ให้เกิดความตระหนักรู้ในวงกว้างของสังคมไทยต่อไป ขอขอบคุณเครือซีพีที่ให้ความสำคัญกับด้านการศึกษาและส่งเสริมความกตัญญู นายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย กล่าว




 



นางสาวดวงพร อุดมทิพย์ นายกสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ กล่าวว่า ขอขอบคุณเครือซีพีที่สนับสนุนทุนบุตรสื่อมวลชน โดยในปีนี้ในส่วนของสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจได้รับทุน 21 ทุน ทุนนี้เป็นการสร้างโอกาสและเป็นทุนการศึกษาให้แก่บุตรของสมาชิกทั้ง 4 สมาคมฯ เชื่อว่าทุนนี้จะมีส่วนช่วยลดภาระค่าครองชีพของสื่อมวลชนในปัจจุบัน พร้อมส่งเสริมค่านิยมความกตัญญู ภายใต้แนวคิดกตัญญูทำได้ทุกวันนั้นเป็นเรื่องที่เราสามารถทำให้เกิดขึ้นได้ทุกวัน รวมถึงความกตัญญูต่อประเทศชาติและแผ่นดินไทย

 


นางสาวเกศทิพย์ สุวรรณฤทธิ์ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนคณะราษฏรบำรุง จังหวัดยะลา ในฐานะผู้ที่ได้รับทุนการศึกษา กล่าวว่า ความกตัญญู เป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่คนรุ่นใหม่จะต้องให้ความสำคัญตั้งแต่กตัญญูต่อพ่อแม่ ด้วยการตั้งใจเรียน การได้ทุนการศึกษาไปในครั้งนี้เป็นการช่วยแบ่งเบาภาระที่บ้านได้อย่างมาก นอกจากจะไว้เป็นทุนการศึกษาแล้วจะนำส่วนที่เหลือไปซื้อหนังสือและอุปกรณ์การเรียนเพื่อเพิ่มพูนความรู้ให้มากขึ้น จะได้นำความรู้มาสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติ

 

ขณะที่ ด.ญ. พิชาริณีย์ ฉัตรสุริยาวงศ์ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนอัสสัมชัญ ธนบุรี เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและภูมิใจอย่างมากที่ได้รับทุนการศึกษาในครั้งนี้ ขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ให้ทุนในการเรียน โดยจะนำความรู้ได้ไปสร้างประโยชน์ให้กับคนอื่น ๆ ในสังคม เพราะความกตัญญูคือการสำนึกรู้บุญคุณคน จะนำความรู้ สร้างความดีตอบแทนพ่อแม่ ผู้ที่มีบุญคุณ และประเทศต่อไป

 





#ทุนซีพีกตัญญู #ทุนซีพี #ซีพี #CP #CPgroup #เครือซีพี

-###-

 

“วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” เทศกาลสัตว์น้ำที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

  เปิดประสบการณ์ความมหัศจรรย์ของโลกใต้น้ำกับ FISHTIVAL 2025   ที่ยกทัพพาเหรดสัตว์น้ำกว่า 3,000 ตู้ ในงาน “วันประมงน้อมเกล้าฯ ครั้งที่ 35” ...