"โครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ" มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท หนุนเด็กดี
สร้างพลเมืองดี ลดความเหลื่อมล้ำ
ตลอดระยะเวลา
33
ปีของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท
ให้ความสำคัญกับการดำเนินงานเพื่อตอบแทนคุณแผ่นดิน
โดยน้อมนำแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้เพื่อขับเคลื่อนงาน 4
ด้านหลัก คือ พัฒนาเด็กและเยาวชน ชุมชนและขจัดความยากจน พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงวัย
ปกป้องและฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม สู่เป้าหมาย “สร้างคนดี พลเมืองดี อาชีพดี
ชุมชนสิ่งแวดล้อมดี
"โครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ"
เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็กและเยาวชน สนองแนวพระราชดําริ
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
มีพระราชหฤทัยมุ่งมั่นช่วยเหลือเด็กเยาวชนที่ขาดโอกาสในถิ่นทุรกันดารให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
โดยสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียนที่จบการศึกษาภาคบังคับหรือเท่าที่มีการเปิดการเรียนการสอน
ในโรงเรียนสังกัดตำรวจตระเวนชายแดน (โรงเรียนตชด.) ให้เยาวชนมีโอกาสศึกษาต่อ
พัฒนาตนเองให้เป็นคนดี พึ่งตนเองและกลับไปช่วยเหลือพัฒนาชุมชน
ให้ทุกคนมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ในปี
2546 ซึ่งเป็นปีเริ่มต้นของโครงการ มูลนิธิฯ ได้ดำเนินโครงการฯ ร่วมกับ
สำนักงานโครงการส่วนพระองค์ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี
สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน
กปร.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน โรงเรียนวังไกลกังวล ในพระบรมราชูปถัมภ์
เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนศิษย์เก่าโรงเรียนตชด. นำความรู้ไปประกอบสัมมาชีพ เป็นคนดี
พลเมืองดีชายแดน ซึ่งปัจจุบันการดำเนินโครงการฯเข้าสู่ปีที่19 แล้ว
นายจอมกิตติ
ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์
เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ ผู้ช่วยบริหาร สำนักประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท
เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน)
ในฐานะกรรมการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท
กล่าวว่า เป้าหมายของมูลนิธิฯ คือ
สร้างคนดี พลเมืองดี อาชีพดี
และชุมชนสิ่งแวดล้อมดี ซึ่งที่ผ่านมา
มูลนิธิฯร่วมกับหน่วยงานและสถาบันการศึกษา ดำเนินโครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ
สร้างโอกาสทางการศึกษาแก่นักเรียนศิษย์เก่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาทัดเทียมเยาวชนในเมือง
เพื่อกลับไปพัฒนาชุมชนในฐานะเป็นพลเมืองดีชายแดน
นักเรียนทุนสามารถกลับไปสร้างงานสร้างอาชีพในครัวเรือน
ที่ต่อยอดเป็นระบบเศรษฐกิจในชุมชน สร้างงานสร้างรายได้ให้แก่ตนเอง เกิดการรวมกลุ่มเกิดเป็นวิสาหกิจชุมชน เช่น
วิสาหกิจชุมชนโรบัสต้าป่าช้างขาว บ้านป่าหมาก ตำบลศาลาลัย อำเภอสามร้อยยอด
จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้น
นับจากปี
2546 การจัดรับนักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เข้าโครงการ จะมี 2 ลักษณะ คือ
เยาวชนศิษย์เก่าโรงเรียนตชด. (ภาคกลาง) และเป็นนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ
กับเยาวชนศิษย์เก่าโรงเรียนตชด. (ภาคกลาง) ที่จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่
6 เป็นเยาวชนที่มีความประพฤติดี
ผลการเรียนดี มีความเป็นผู้นำ ที่ต้องการศึกษาต่อ แต่ขาดทุนทรัพย์
ให้มีโอกาสเข้าศึกษาต่อระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 6
หรือศึกษาต่อสายอาชีพในสถาบันการอาชีวศึกษา
จนถึงปัจจุบัน มีเด็กเข้าร่วมโครงการรวม 203 คน สำเร็จการศึกษาแล้ว 97 คน
อยู่ระหว่างการศึกษา 81 คน และกลับไปศึกษาหรือประกอบอาชีพภูมิลำเนา 25 คน
และพบว่าร้อยละ 24 ของนักเรียนทุนได้กลับไปสร้างงาน สร้างอาชีพในครัวเรือน
ขณะที่ร้อยละ 54 สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัว
ขยายผลในการสร้างงานร่วมกับวิสาหกิจชุมชน
นอกจากนี้
เด็กๆในโครงการที่ต้องเข้าพักค้างประจำ ได้เรียนรู้การใช้ชีวิต
ที่ศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร จังหวัดเพชรบุรี
ซึ่งมูลนิธิฯได้รับอนุญาตให้ใช้พื้นที่ของศูนย์ศึกษาการพัฒนาห้วยทราย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี โดยก่อสร้างอาคารพักค้างให้กับเยาวชนและเจ้าหน้าที่
มีตำรวจตชด. จากกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน
เป็นผู้ฝึกด้านระเบียบวินัยให้กับเยาวชน มีเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ
ทำหน้าที่เป็นเสมือนพ่อแม่ ฝีกอบรมสั่งสอน พร้อมทั้งดูแลความเป็นอยู่ของเยาวชน
เป็นการช่วยสร้างทักษะชีวิต ควบคู่กับการฝึกทักษะอาชีพด้านธุรกิจเกษตร อาทิ
การเลี้ยงแพะ เลี้ยงสุกร เลี้ยงไก่พื้นเมือง ปลูกไม้ผลผสมผสานและพืชผักสวนครัว
ที่ไม่เพียงใช้ประกอบอาหารสำหรับทุกๆ คนเท่านั้น
ยังเรียนรู้วิธีการจัดการรายรับ-รายจ่าย
การพัฒนาตนเองจากสิ่งใกล้ตัวเป็นกระบวนการเรียนรู้นำไปต่อยอดได้ในอนาคต
ตลอดระยะเวลาที่เยาวชนอยู่ในโครงการฯ มูลนิธิ ฯ
จะสนับสนุนทุนการศึกษาและค่าใช้จ่ายทั้งหมด
โดยเด็กเยาวชนจะได้ศึกษาสายสามัญ ณ โรงเรียนวังไกลกังวล
ในพระบรมราชูปถัมภ์
ซึ่งโรงเรียนมีโควต้าให้กับมูลนิธิฯ ปีละ 10 คน ส่วนเยาวชนที่เลือกศึกษาสายอาชีพ
ก็สามารถเลือกเรียนตามความสนใจและความถนัด ทั้งที่วิทยาลัยการอาชีพวังไกลกังวล
วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยี จังหวัดเพชรบุรี หรือโรงเรียนปัญญาภิวัฒน์เทคโนธุรกิจ
และหากเยาวชนมีศักยภาพ ผลการเรียนดี
และมีความสามารถต้องการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา มูลนิธิฯ ยังสนับสนุนให้การศึกษาต่อไป
ปัจจุบัน
โครงการดังกล่าวฯ ยังได้ต่อยอดความสำเร็จสู่เยาวชนในพื้นที่อื่นๆ ด้วยการสนับสนุนทุนให้กับนักเรียนประจำ
โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 52 จังหวัดเลย และเยาวชนจากโรงเรียน ตชด.ภาค 1 รวมทั้งได้ขยายพื้นที่ดำเนินโครงการฯ
ร่วมกับโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 53 และกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23
จังหวัดสกลนคร
ผนึกพลังสร้างโอกาสทางการศึกษาให้กับน้องๆ นักเรียนจากโรงเรียนตชด.
ภายใต้การดูแลของกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 23 ทั้ง 11 แห่ง โดยมีมูลนิธิฯ
ส่งเสริมด้านการศึกษาตามกำลังสติปัญญา และความสามารถของน้องๆ
นอกจากนี้
โครงการดังกล่าว
มาสามารถช่วยลดปัญหาความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษาสร้างโอกาสที่ทัดเทียมของเด็กในเมืองและเยาวชนในพื้นที่ชายแดนแล้ว
ยังเป็นโครงการที่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) เป้าหมายที่ 4 สร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม
และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ก้าวเข้าสู่ปีที่
19 ปีของ "โครงการสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ฯ
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบทและหน่วยงานภาคีเครือข่าย เดินหน้าสร้างเยาวชนในพื้นที่ชายแดนได้เข้าถึงการศึกษาที่ดี ลดความเหลื่อมล้ำ
ส่งเสริมให้เด็กเยาวชนเสริมสร้างสติปัญญาพัฒนาศักยภาพของตนเอง เรียนรู้วิธีจัดการชีวิต
การจัดการอาชีพเกษตรขั้นพื้นฐานที่สามารถนำไปใช้ประกอบอาชีพได้ในอนาคต สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนทั้งรุ่นที่จบการศึกษาไปแล้วและกำลังศึกษาอยู่ เป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนชุมชนที่เข้มแข็ง
และสามารถเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศชาติต่อไป./
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น