‘รมช.มนัญญา’ เตรียมเสนอนายกฯ
ลงนามหนังสือถึงดีเอสไอ-ปปง. ยกกรณีทุจริตในสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ
เป็นคดีพิเศษ ยันคุ้มครองความเสียหายของสมาชิก เบื้องต้นพบเสียหาย 491 ล้านบาท 85 ราย
“ทั้งนี้ จะทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
เพื่อให้ลงนามให้เรื่องนี้เป็นคดีพิเศษ ซึ่งล่าสุด ดิฉันและกสส. กตส. มีหลักฐานเส้นทางการเงิน เส้นทางทรัพย์สิน
ทั้งในอดีตหรือแม้กระทั่งการใช้จ่ายซื้อของล่าสุดไว้ในมือหมดแล้ว บางรายการเปิดเผยไม่ได้
เพราะอาจกระทบกับหลักฐาน ดังนั้นขอฝากไปยังเจ้าหน้าที่ที่ทุจริตว่า
ควรมามอบตัวและคืนทรัพย์สินที่มีการยักยอกไป เพื่อบรรเทาโทษ ดังนั้นเชื่อว่าการสืบทรัพย์จะใช้เวลาไม่มากที่จะนำมาคืนให้กับสมาชิกสหกรณ์
ส่วนผู้กระทำผิดนั้น ขณะนี้ได้รับรายงานว่าบางคนหนีไปประเทศลาว
บางคนหนีไปประเทศเวียดนาม
ก็ขอฝากไปถึงทั้งสองคนว่าให้กลับมามอบตัวเป็นวิธีที่ดีที่สุด
เพราะขณะนี้การกระทำของทั้งสองคนทำให้ครอบครัวเดือดร้อน” รมช.มนัญญา
รมช.มนัญญา
กล่าวเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กสส. และกตส.
เร่งรัดดำเนินการใน 2 มาตรการคือ 1. ให้ตั้งคณะทำงานร่วมระหว่าง 2 กรม
เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาของสหกรณ์
และผลกระทบที่สมาชิกได้รับและรายงานผลให้ทราบภายในเดือน เม.ย.นี้ นอกจากนั้นให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่
หากพบรายใดมีส่วนกระทำผิดให้ใช้อำนาจนายทะเบียนสั่งหยุดหน้าที่หรือให้พ้นจากตำแหน่งทันที
หากจำเป็นให้พิจารณาตั้งคณะกรรมการชั่วคราวขึ้นมาแก้ไขปัญหาได้
รวมทั้งให้อธิบดีทั้งสองกรมประสาน ปปง.
และดีเอสไอตรวจสอบเส้นทางการเงินทั้งหมดของผู้กระทำผิด ทั้งสืบค้น อายัดทรัพย์สิน
เพื่อป้องกันความเสียหายให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด (เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นมากกว่า
100 ล้านบาท) 2. ให้กตส. ตรวจสอบสถานะทางการเงินของสหกรณ์ว่ายังมีสภาพคล่องอย่างไร
ดำเนินกิจการได้ตามปกติหรือไม่ และให้ตรวจสอบการทำงานของเอกชนที่สหกรณ์จ้างตรวจบัญชีว่า
มีมาตรการการตรวจสอบอย่างไร ระหว่างการตรวจสอบควรระงับการสอบบัญชีของเอกชนรายนี้
หากพบว่ามีส่วนรู้เห็นให้ถอดชื่อออกจาทำเนียบของกรม หรือแบล็คลิสต์ ส่วนการแก้ไขในระยะต่อไป
ให้ทั้งสองกรมไปตรวจสอบว่ายังมีช่องโหว่ใด ของระเบียบและกฎหมายที่ทำให้สามารถทุจริตได้
ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งให้ปิดสำนักงานสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ห้ามคนเข้าไป เพื่อป้องกันการทำลายเอกสาร นอกจากนั้น ได้เร่งรัดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขข้อบกพร่องโดยเร่งด่วน โดยให้ไปดูว่าระเบียบคำสั่งใดที่สมควรต้องมีการปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องอะไรหรือไม่ เพื่อนำมาสู่การพิจารณาปรับปรุงให้บังคับใช้ได้ในระยะต่อไป
นายประกอบ เผ่าพงศ์
รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวว่า เบื้องต้นพบผู้เสียหาย 85 ราย วงเงิน 491 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีจำนวนเพิ่มเติม
เนื่องจากยังตรวจสอบไม่ครบ 100% ดังนั้นขอให้สมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ
ทุกท่าน เร่งแจ้งรายชื่อหรือตรวจสอบทรัพย์สินของตนภายในวันที่ 8 เม.ย. นี้ เพื่อให้ได้ตัวเลขที่ครอบคลุมทั้งหมด
นางอัญชนา ตราโช
รองประธานกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์กระทรวงเกษตรฯ กล่าวว่า สหกรณ์มีทุนเรือนหุ้น
1,574 ล้านบาท เงินฝากของสมาชิกออมทรัพย์ 1,600 กว่าล้านบาท ทุนสำรอง 151 ล้านบาท
และเงินลงทุน 650 ล้านบาท ทั้งนี้สหกรณ์พร้อมที่จะนำเอาเงินลงทุน 650 ล้านบาทมาสำรองเพื่อแก้ไขความเสียหายดังกล่าว
บรรเทาความเดือดร้อนสมาชิกที่ได้รับความเสียหาย
ดังนั้นสหกรณ์ยังมีความมั่นคงทางการเงินในการให้บริการแก่สมาชิก
ทั้งนี้ ในที่ประชุมวันนี้ มีสมาชิกสหกรณ์ผู้เสียหายที่ถูกถอนเงินออกจากบัญชีเข้าร่วมชี้แจงจำนวนมาก โดยบางรายชี้แจงว่าบัญชีถูกถอนตั้งแต่ปี 2559 จำนวน 40 ครั้ง ขณะที่บางรายถูกถอนจำนวน 4 ครั้ง โดยครั้งล่าสุดที่ถูกถอน คือเดือนสิงหาคม 2564 รวมยอดที่ถูกถอนจำนวน 3.4 ล้านบาท อีกรายแจ้งว่าถูกถอนตั้งแต่ปี 2561 จนถึง 7 มี.ค.65 รวม 11 ครั้ง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น