นายสิทธิพันธ์
ธนาเกียรติภิญโญ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เปิดเผยว่า
ขณะนี้มีขบวนการลักลอบนำเข้าหมูจากประเทศเพื่อนบ้านในหลายจังหวัด
โดยเฉพาะแถบภาคอีสาน เพื่อนำมาขายปะปนกับหมูไทย
จากกลุ่มไอ้โม่งที่ทำมาหาทำกินบนความทุกข์ของคนเลี้ยงหมูและคนไทย
ทำให้ประชาชนต้องเสี่ยงกับการได้รับสารเร่งเนื้อแดงและสารปนเปื้อนอื่นๆในเนื้อหมูลักลอบที่ไม่รู้แหล่งที่มา
ไม่ผ่านกระบวนการตรวจสอบโรคตามข้อกำหนดและผิดกฎหมายไทย ขณะเดียวกัน
ยังเสี่ยงกับโรคหมูที่จะติดมากับผลิตภัณฑ์
ซึ่งจะสร้างความเสียหายและซ้ำเติมวิกฤติในอุตสาหกรรมการเลี้ยงหมูไทยอย่างมาก
ที่สำคัญรัฐต้องสูญเสียรายได้จากสินค้าที่ไม่ได้เสียภาษีตามระบบ
หมูผิดกฎหมายนี้จึงสร้างกระทบกับเศรษฐกิจของไทยอย่างที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้
เพราะทำให้คนไทยตายผ่อนส่ง คนเลี้ยงหมูตายสนิท และเศรษฐกิจไทยย่ำแย่
เกษตรกรขอเรียกร้องให้ภาครัฐเข้มงวดกวดขันและเร่งกวาดล้างขบวนการนี้โดยเร็วที่สุด
รวมถึงคนเลี้ยงหมู ผู้บริโภค และประชาชน
ที่ทราบเบาะแสช่วยกันชี้เป้าแก่เจ้าหน้าที่รัฐเพื่อเร่งจับกุมเอาผิดต่อไป
“วันนี้การบริหารจัดการด้านการป้องกันโรค
ASF ในหมู กำลังดำเนินการไปด้วยดี สมาคมผู้เลี้ยงหมูทุกภูมิภาค
ทุกจังหวัดต่างระดมความร่วมมือกับกรมปศุสัตว์ และผู้เชี่ยวชาญ คณาจารย์
และภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ในการให้ข้อมูลและถ่ายทอดองค์ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการป้องกันโรคตามมาตรฐานแก่เกษตรกรรายย่อยทั่วประเทศ
เพื่อให้กลับมาเลี้ยงหมูรอบใหม่ได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และปลอดโรค
สถานการณ์ต่างๆกำลังเดินหน้าไปในทางที่ดี แต่กลับมีขบวนการบ่อนทำลายชาติ
ด้วยการนำเข้าหมูจากประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงจากประเทศแถบยุโรปเข้ามาเป็นระยะ
เพื่อหวังเพียงผลกำไรของตนเอง โดยไม่นึกถึงความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นกับคนไทย
ภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทั้งกรมศุลกากร กรมปศุสัตว์ เจ้าหน้าที่ในด่านชายแดนไทย
และฝ่ายปกครอง เร่งสกัดกั้นและปราบปรามขบวนการนี้ให้สิ้นซากโดยเร็ว” นายสิทธิพันธ์
กล่าว
นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ให้ข้อมูลอีกว่า ที่ผ่านมาสมาคมผู้เลี้ยงสุกรทุกภูมิภาค ต่างพยายามป้องกันโรค ASF และพยายามผลักดันให้ผู้เลี้ยงหมูรายย่อยกลับมาเลี้ยงหมูรอบใหม่ให้เร็วที่สุด
โดยในภาคอีสานที่สมาคมฯ ได้เดินหน้าจัดสัมมนาสัญจรในหัวข้อ
“หลังเว้นวรรค...จะกลับมาอย่างไรให้ปลอดภัย?” โดยผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ
และสัตวแพทย์ของบริษัทเอกชน นำความรู้และเทคนิคการป้องกันโรคมาถ่ายทอดสู่เกษตรกรผู้เลี้ยงรายย่อย
ที่ดำเนินการแล้วในหลายจังหวัด อาทิ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ ศรีสะเกษ นครราชสีมา
ชัยภูมิ
เพื่อปูพื้นฐานที่เข้มแข็งให้กับเกษตรกรรายย่อยที่พร้อมกลับเข้ามาในระบบอีกครั้งได้อย่างมั่นใจ
และช่วยเพิ่มซัพพลายหมูในประเทศอย่างรวดเร็ว./
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น