สมาคมกุ้งไทย เข้าพบอธิบดีกรมประมง
ร้องขอมาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาโรคกุ้ง
สมาคมกุ้งไทย
ร้องกรมประมงเร่งออกแนวทางแก้ปัญหาโรคกุ้งอย่างเป็นรูปธรรมทั้งห่วงโซ่
ก่อนเกษตรกรถอดใจเลิกเลี้ยง มุ่งขับเคลื่อนเป้าหมายเพิ่มผลผลิตกุ้งให้ได้ 400,000
ตัน ภายในปี 2566 และรักษาคุณภาพมาตรฐานสินค้า “พรีเมี่ยม” พร้อมทวงแชมป์โลกอันดับ
1
นายเอกพจน์
ยอดพินิจ นายกสมาคมกุ้งไทย กล่าวว่า สมาคมฯ
มีความห่วงใยเกษตรกรไทยที่ต้องเผชิญปัญหาโรคกุ้งและแก้ปัญหากันมามากกว่า 10 ปี
จนไม่สามารถแก้ปัญหาได้
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ยากและท้าทายที่สุดคือการเลี้ยงกุ้งให้รอด
จึงอยากเรียกร้องให้กรมประมงหาแนวทางหรือมาตรการเร่งด่วนในการแก้ปัญหาเรื่องโรคในการเพาะเลี้ยง
นอกจากนี้
สมาคมฯ ยังมีความกังวลเกี่ยวกับการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์และอินเดีย
ที่ยังมีเกษตรกรไม่ได้รับรู้ข่าวสารและมีความห่วงใย
ซึ่งการนำเข้าอาจเกิดผลดีในระยะสั้น
จึงขอให้กรมพิจารณาผลที่จะเกิดในระยะยาวโดยเฉพาะด้านภาพลักษณ์ของกุ้งในเวทีโลกด้านคุณภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคในฐานะสินค้า
“พรีเมี่ยม” รวมถึงโรคอุบัติใหม่จากการนำเข้ากุ้งจากต่างประเทศ
ซึ่งขณะนี้ประเทศยังไม่สามารถบรรลุผลการแก้ปํญหาได้
และอาจจะต้องเผชิญกับโรคใหม่
“เป้าหมายการเพิ่มผลผลิตกุ้งไทย
400,000 ตัน ควรยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ
โดยเฉพาะอย่างยื่งการแก้ปัญหาเรื่องโรคและการรักษาภาพลักษณ์คุณภาพสินค้าไทย
เพราะมีความหมายต่อชีวิตและลมหายใจของคนในห่วงโซ่อุตสาหกรรมกุ้งที่เชื่อมโยงกันหลายส่วน”
นายเอกพจน์ กล่าว
นายเอกพจน์
กล่าวย้ำว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมาหลังเกิดโรคระบาดในกุ้ง อุตสาหกรรมกุ้งไทย
สูญเสียโอกาส-รายได้จากการส่งออกถึง 500,000 ล้านบาท
ที่น่าห่วงอย่างยิ่งคือถึงวันนี้ยังแก้ปัญหาไม่ได้ วิธีที่รัฐพยายามช่วยยังไม่เกิดผลในทางปฏิบัติ
นอกจากนี้
การเผยแพร่ข่าวของสื่อต่างประเทศ ว่ารัฐบาลของเอกวาดอร์ได้ประกาศว่ากุ้งเอกวาดอร์สามารถส่งออกไปยังตลาดประเทศไทยได้อีกครั้ง
เพราะเอกวาดอร์สามารถดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัย และความปลอดภัยทางชีวภาพได้
กรมประมงไทยยอมรับและมีประกาศอนุญาตให้มีการนำเข้ากุ้งจากเอกวาดอร์ และอินเดีย
เท่ากับเป็นการยกระดับมาตรกุ้งเอกกวาดอร์มาเทียบเท่ากุ้งไทย
ขณะที่กุ้งไทยถูกดึงมาตรฐานให้ต่ำลง
“สมาคมเห็นว่าเป็นเรื่องดังกล่าวที่มีความอ่อนไหวอย่างยิ่ง
ต่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมกุ้งไทยในระยะยาว
อาจสร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์
ความเชื่อมั่นในสินค้ากุ้งไทยของผู้นำเข้าและผู้บริโภค ที่สำคัญส่งผลกระทบต่อพี่น้องเกษตรกรผู้เพาะเลี้ยงกุ้งภายในประเทศในระยะกลางและระยะยาว
โดยเฉพาะผลกระทบโดยตรงต่อราคา” นายเอกพจน์ กล่าว./
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น